ใบเตย...มีดีที่ไม่ใช่แค่กลิ่นหอม
"กลิ่นใบเตย หอมชื่นใจ" ...ก็แหมเวลาเราได้กลิ่นหอม ๆ ของใบเตย หรือ "เตยหอม"อยู่ในขนมไทยทีไร ก็ชวนให้เราอยากคว้าขนมไทยชิ้นนั้นขึ้นมาหม่ำไปซะที
สำหรับ "เตยหอม" นั้น ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีใช่ไหมล่ะจ๊ะ โดยเฉพาะ "ใบเตย" ที่มักถูกนำมาผสมในอาหาร เพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน แถมยังช่วยแต่งสีเขียวให้กับขนมไทยด้วย ซึ่งคนทั่วไปอาจจะรู้ว่าประโยชน์ของ "เตยหอม" มีเพียงเท่านี้ แต่จริง ๆ แล้ว นอกจาก "เตยหอม" จะมีดีที่ความหอมแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพแฝงอยู่ด้วยนะ
มาที่สรรพคุณสุดแสนจะน่าอัศจรรย์ของเตยหอมกันบ้าง นอกจากจะนำ "ใบ" มาใช้ผสมอาหาร แต่งกลิ่น ให้สีเขียวแล้ว ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ยังพบว่า "เตยหอม" มีฤทธิ์ทางยาด้วย ดังนี้
ใบ ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เพราะใบเตยมีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงช่วยบำรุงหัวใจได้อย่างดี วิธีรับประทานคือ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง
ช่วยดับกระหาย เนื่องจากใบเตยมีกลิ่นหอมเย็น หากนำมาผสมน้ำรับประทาน จะช่วยดับกระหาย คลายร้อน ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ และชุ่มคอได้เป็นอย่างดี วิธีรับประทานคือ นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม
รักษาโรคหัด หรือ โรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว
รากและลำต้น ใช้รักษาโรคเบาหวาน เพราะรากและลำต้นของเตยหอมนั้น มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด วิธีรับประทานก็คือ ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น
ช่วยดับกระหาย เนื่องจากใบเตยมีกลิ่นหอมเย็น หากนำมาผสมน้ำรับประทาน จะช่วยดับกระหาย คลายร้อน ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ และชุ่มคอได้เป็นอย่างดี วิธีรับประทานคือ นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม
รักษาโรคหัด หรือ โรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว
รากและลำต้น ใช้รักษาโรคเบาหวาน เพราะรากและลำต้นของเตยหอมนั้น มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด วิธีรับประทานก็คือ ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น
ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ โดยการนำต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือ ไปต้มกับน้ำดื่ม
นอกจากนี้ เตยหอม ยังช่วยแก้อ่อนเพลีย ดับพิษไข้ และชูกำลังได้อีกด้วย เห็นสรรพคุณมากมายขนาดนี้แล้ว ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ สำหรับเจ้าพืชสีเขียวใบเรียวชนิดนี้
สูตรขนมไทยทำจากใบเตย
วุ้นสังขยาดอกมะลิใบเตย
สูตรวิธีการทำวุ้นสังขยาดอกมะลิใบเตย
ส่วนผสม
1. วุ้นผง 10 กรัม
2. น้ำลอยดอกมะลิ 450 กรัม
3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
4. หัวกะทิ 100 กรัม
5. ไข่ไก่ 2 ฟอง
6. ใบเตย
วิธีทำวุ้นสังขยาดอกมะลิใบเตย
สูตรวิธีการทำวุ้นสังขยาดอกมะลิใบเตย
ส่วนผสม
1. วุ้นผง 10 กรัม
2. น้ำลอยดอกมะลิ 450 กรัม
3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
4. หัวกะทิ 100 กรัม
5. ไข่ไก่ 2 ฟอง
6. ใบเตย
วิธีทำวุ้นสังขยาดอกมะลิใบเตย
- ผสมหัวกะทิกับน้ำตาลและไข่ไก่ โดยใช้ใบเตยขยำให้ส่วนผสมเข้ากัน และน้ำตาลละลาย จากนั้นนำไป กรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาสิ่งสกปรกออก
- ตั้งกระทะทองเหลืองบนไฟอ่อนๆ ใส่น้ำลอยดอกมะลิและวุ้นผงลงไป คนจนละลายเข้ากันดี จากนั้นจึง ใส่ส่วนผสมไข่กะทิ (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1 ลงไป) เร่งไฟให้แรงขึ้น รอจนส่วนผสมเดือด คนส่วนผสม ต่อเนื่องจนวุ้นมีลักษณะเหนียวเป็นยางมะตูม จึงปิดไฟ
- เทส่วนผสมวุ้นสังขยาลงในแบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้หายร้อนสักพัก จึงใส่ตู้เย็น
- เคาะวุ้นออกจากแบบ จัดใส่จานเสริฟ พร้อมรับประทานได้ทันที (ถ้ายังไม่รับประทาน ควรเก็บ ไว้ในตู้เย็นก่อน)
ตะโก้ใบเตย
ส่วนผสม
แป้งซ่าหริ่ม 1/4 ถ้วย
ข้าวโพดต้มสุกหรือแห้วต้มสุก 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
น้ำใบเตยคั้นข้นๆ 1/2 ถ้วย
กระทงใบเตย
วิธีทำ
ผสมแป้งซ่าหริ่ม น้ำตาล ข้าวโพดหรือแห้ว น้ำใบเตย เข้าด้วยกัน ลงในกระทะทอง ตั้งไฟกวนจนแป้งสุกใส ตักหยอดใส่กระทะใบเตย 1/2 ของกระทงโดยหยอดอย่างรวดเร็ว
ส่วนผสมหน้าตะโก้
หัวกะทิ (มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม) 2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
ใบเตยหั่นท่อนยาว 4 ชิ้น
วิธีทำ
ใส่หัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล เกลือ เข้าด้วยกัน ใส่ใบเตยตั้งไฟกลาง กวนจนมีลักษณะข้น ลดไฟ กวนจนแป้งสุก โดยเนื้อแป้งจะเป็นเงา ยกลง เอาใบเตยออกตักหยอดบนตัวตะโก้
หมายเหตุ การหยอดหน้าตะโก้ต้องหยอดขณะที่ร้อน จะทำให้หน้าตะโก้เรียบสวย
ส่วนผสม
แป้งซ่าหริ่ม 1/4 ถ้วย
ข้าวโพดต้มสุกหรือแห้วต้มสุก 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
น้ำใบเตยคั้นข้นๆ 1/2 ถ้วย
กระทงใบเตย
วิธีทำ
ผสมแป้งซ่าหริ่ม น้ำตาล ข้าวโพดหรือแห้ว น้ำใบเตย เข้าด้วยกัน ลงในกระทะทอง ตั้งไฟกวนจนแป้งสุกใส ตักหยอดใส่กระทะใบเตย 1/2 ของกระทงโดยหยอดอย่างรวดเร็ว
ส่วนผสมหน้าตะโก้
หัวกะทิ (มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม) 2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
ใบเตยหั่นท่อนยาว 4 ชิ้น
วิธีทำ
ใส่หัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล เกลือ เข้าด้วยกัน ใส่ใบเตยตั้งไฟกลาง กวนจนมีลักษณะข้น ลดไฟ กวนจนแป้งสุก โดยเนื้อแป้งจะเป็นเงา ยกลง เอาใบเตยออกตักหยอดบนตัวตะโก้
หมายเหตุ การหยอดหน้าตะโก้ต้องหยอดขณะที่ร้อน จะทำให้หน้าตะโก้เรียบสวย
สูตรขนมถ้วยใบเตย หอม หวาน มัน ตัวแป้งไม่แข็ง
ส่วนผสม
ส่วนผสมตัวขนม
๑. แป้งข้าวจ้าว ๑/๒ ถ้วย
๒. แป้งท้าวยายม่อม ๓ ช้อนโต๊ะ
๓. น้ำตาลปีบ ๑ ถ้วย
๔. หางกะทิ ๑ ถ้วย
๕. น้ำใบเตย ๑/๔ ถ้วย
ส่วนผสมหน้าขนม
๑. หัวกะทิ ๑ ถ้วย
๒. แป้งข้าวจ้าว
๒ ช้อนโต๊ะ
๓. เกลือป่น ๑/๒ ช้อนชา
วิธีทำ
ส่วนผสม
ส่วนผสมตัวขนม
๑. แป้งข้าวจ้าว ๑/๒ ถ้วย
๒. แป้งท้าวยายม่อม ๓ ช้อนโต๊ะ
๓. น้ำตาลปีบ ๑ ถ้วย
๔. หางกะทิ ๑ ถ้วย
๕. น้ำใบเตย ๑/๔ ถ้วย
ส่วนผสมหน้าขนม
๑. หัวกะทิ ๑ ถ้วย
๒. แป้งข้าวจ้าว
๒ ช้อนโต๊ะ
๓. เกลือป่น ๑/๒ ช้อนชา
วิธีทำ
- เตรียมลังถึง นึ่งถ้วยตะไลให้ร้อนรอไว้ด้วยนะคะ ผสมแป้งสองชนิดเข้าด้วย เติมน้ำตาลปี๊บ และน้ำใบเตยลงไป นวดให้เข้ากันกับแป้ง ทะยอยใส่หางกะทิลงไป นวดจนเนียน และเข้ากันด
- ส่วนหน้าขนม ผสมแป้งและหัวกะทิ และเกลือ คนให้เข้ากัน พักไว้ก่อนค่
- นำตัวแป้งขนมที่เตรียมไว้แล้วหยอดลงในถ้วยตะไลที่ร้อนแล้ว หยอดลงถ้อยประมาณครึ่งหนึ่งของถ้วยตะไล ปิดฝาซึ้งนึ่งประมาณ ๕-๖ นาที หรือจนตัวขนมสุก
- จากนั้นก็หยอดหน้าขนมลงไปบนตัวแป้งที่นึ่งแล้ว นึ่งต่ออีกประมาณ ๕ นาทีค่ะ อย่านึ่งนานนะคะ เพราะตัวหน้าขนมจะแตกมัน
- รอให้ขนมเย็นแล้วค่อยแคะขนมออกจากถ้วยค่ะ
ข้าวเหนียวมะม่วง สูตรใบเตย
วัตถุดิบและสัดส่วน:
ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1/2 กิโลกรัม
กะทิ 300 กรัม
เกลือป่น 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ใบเตย 5-10 ใบ
มะม่วงสุก 2-3 ผล
กะทิ 300 กรัม
เกลือป่น 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ใบเตย 5-10 ใบ
มะม่วงสุก 2-3 ผล
เครื่องปรุง:
กะทิ
เกลือป่น
น้ำตาลทราย
เกลือป่น
น้ำตาลทราย
ขั้นตอนการปรุง:
1. นำข้าวเหนียวไปล้างทำความสะอาดและแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ
2. นำผ้าขาวบางรองไว้ในซึ้งหรือหม้อนึ่ง แล้วจึงนำข้างเหนียววางลงบนผ้าขาวบาง จากนั้นนำไปนึ่งจนข้าวเหนียวสุก
3. กะทิแบ่งครึ่งนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ใส่เกลือป่น น้ำตาลคนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงใส่ใบเตยที่คั้นน้ำไว้แล้วลงไป ทิ้งไว้สักพักจึงปิดไฟ ส่วนกะทิอีกครึ่งแบ่งไว้ตั้งไฟเคี่ยวกับเกลือ ไว้สำหรับราดหน้า
4. ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้จนสุกดีแล้วลงไป จากนั้นจึงใส่น้ำกะทิที่เคี่ยวไว้ในขั้นตอนที่สามตามลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว และทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที ก็สามารถนำไปเสริฟกับมะม่วงได้
2. นำผ้าขาวบางรองไว้ในซึ้งหรือหม้อนึ่ง แล้วจึงนำข้างเหนียววางลงบนผ้าขาวบาง จากนั้นนำไปนึ่งจนข้าวเหนียวสุก
3. กะทิแบ่งครึ่งนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ใส่เกลือป่น น้ำตาลคนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงใส่ใบเตยที่คั้นน้ำไว้แล้วลงไป ทิ้งไว้สักพักจึงปิดไฟ ส่วนกะทิอีกครึ่งแบ่งไว้ตั้งไฟเคี่ยวกับเกลือ ไว้สำหรับราดหน้า
4. ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้จนสุกดีแล้วลงไป จากนั้นจึงใส่น้ำกะทิที่เคี่ยวไว้ในขั้นตอนที่สามตามลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว และทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที ก็สามารถนำไปเสริฟกับมะม่วงได้